แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ passive income แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ passive income แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

80 วันเท่านั้น ช่วยคนไทย ทำอีบุ๊คไปขาย ฟรี

เพื่อคนไทยเท่านัั้นครับ!!
ตั้งแต่พรุ่งนี้ 7.00 น. หรือ เจ็ดโมงเช้า
เพจ ebookcreator ร่วมกับ
เพจ progazineonline
เราจะขอตอบแทน แฟนเพจทุกท่าน และ เพื่อนชาวไทยทุกคน...

โดยการช่วย "ทำอีบุ๊คให้ ฟรี!"
ตั้งแต่ ออกแบบปก
จัดรูปเล่ม
สร้างปกแบบ 3 มิติ
และ สอนการวางขาย
รวมถึง ให้ความรู้ ข้อมูลวิธีการทำอีบุ๊คด้วยตัวเอง
ขายอีบุ๊ค
ให้คำปรึกษา
กิจกรรมทั้งหมดนี้จะใช้เวลาแค่ 80 วันเท่านั้น!
ใครสนใจ รายงานตัวด่วนครับ
แชร์ให้เพื่อนกันนะครับ
http://www.inwebook.com

http://fb.com/ebookcreator


วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

2000 like แล้ว และมีรายได้ จากอีบุ๊ค เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ขอบคุณมากๆจริงๆครับ แฟนเพจธรรมดาๆ มาไกลได้ตั้ง 2000 ไลค์
หากท่านใดมีปัญหาเรื่องอีบุ๊คเรายินดีช่วยครับ

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บันได 3 ขั้น พื้นฐานการเป็น Infopreneur

เมื่อได้เริ่มรู้จักว่า Infopreneur คืออะไรกันแล้วมาลองเรียนรู้โมเดลธุรกิจแบบพื้นฐานของการเป็นInfopreneur กัน ขั้นตอนนี้มีชื่อว่า บันได 3 ขั้น พื้นฐานการเป็น Infopreneur ด้วยการสร้างบทความที่มีคุณค่า มีประโยชน์ ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และเมื่อคำ ข้อความ หรือ keyword เป็นที่นิยมและเว็บContentของคุณก็ถูกพบได้ง่ายๆในทุกๆSearch Engineนั่นหมายถึง


คุณวางแผงขายของในแหล่งคนผลุกผล่านได้ถูกต้องแล้ว

จากนี้ไปเพียงแค่คุณหาสินค้ามาวางขายให้ตรงตามความต้องการของตลาดนั้นเท่านี้เป็นอันว่า คุณเรียกตัวเองว่าเป็น infopreneur ได้แล้ว

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มาเป็น INFOPRENEUR : อินโฟร์เพอนัวร์ กันเถอะ

Infoprenuer
เมื่อได้ทำความเข้าใจกับคำว่า Infoprenuer กันในเบื้องต้นกันแล้ว เราลองมาดูว่าคนที่เป็น Infopreneur เค้าทำอะไรกันบ้าง ในทั่วไปแล้วผู้ประกอบการกิจการปกติ จำต้องมีสินค้าหรือบริการที่ออกจะเป็นรูปธรรม จับต้องได้ ด้วยต้องลงทุนเป็นทรัพย์สิน เงินทอง หรือ ลงแรงอย่างมีนัยสำคัญเพื่อให้กิจการดำเนินไป สินค้าขายได้ มีลูกค้าพูดถึงและใช้บริการ สำหรับอินโฟร์เพอร์นัวร์นั้น ก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่! เมื่อเป็นเรื่องของ Information การลงทุนย่อมน้อยกว่า การลงแรงยอมไม่หนักเท่า เฉือนกันที่ความคิดและไอเดีย รวมถึงการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าด้วย ตัวอย่างเช่น การเป็นผู้ให้ความรู้ในการเขียน เป็นวิทยากรบรรยายในเรื่องที่คุณถนัด เป็นBlogger ชื่อดัง นักแต่งเพลง เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆในจำนวนของสิ่งที่ Infopreneur ทำกันในปัจจุบัน ลองค้นคว้าและ มาเป็น Infopreneur กันเถอะ เพราะมันก็ไม่ได้ต้องลงทุนลงแรงอะไรมากนี่ เอาล่ะ แล้วถ้าอยากเป็นขึ้นมาแล้ว ต้องทำไงหล่ะทีนี้ ติดตามตอนต่อไปได้ที่นี่ http://inwebook.blogspot.com แล้วเจอกัน 

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Infopreneur เป็นก่อนรวยกว่า

Infopreneur คำที่ยังไม่มีอยู่ในพจนานุกรม แล้วจริงๆมันคืออะไร? แปลว่าอะไรกันแน่? คำนี้มีเทรนด์มาจากคำว่า  Entrepreneur ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป หมายความถึงผู้ประกอบการทางธุรกิจที่มีความสามารถในการแสวงหาโอกาส และ สามารถใช้โอกาสนั้นสร้างตนให้โดดเด่นจากคู่แข่ง ชนะใจลูกค้า สนองความต้องการของผู้บริโภคได้ และสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้นๆ แล้วต่อยอดสร้างธุรกิจอื่ๆต่อไปได้

แล้ว Infopreneur หล่ะ ข้อมูลจาก Wiki ให้นิยามว่าเกิดจากคำว่า Infomation บวกกับ Entrepreneur ซึ่งเป็นความว่าคล้ายคลึงกับผู้ประกอบการปกติ เพียงแต่ Infopreneur จะเป็นกิจการด้านข้อมูลสารสนเทศรวมถึงการสร้างรายได้ออนไลน์โดยเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย อธิบายให้เห็นชัดขึ้นคือ

      ผู้ที่สร้างรายได้จากเนื้อหาของข้อมูล
 ลักษณะคือการสร้างตัวตนในโลกออนไลน์และให้เนื้อหาข้อมูลที่มีประโยชน์มากมาย แล้วสร้างรายได้จากการเขียนอีบุ๊ค การบรรยาย การเป็นวิทยากรรับเชิญ เปิดคอร์สอบรม ต่อยอดโดยสร้างเป็นธุรกิจออนไลน์ที่ใหญ่ขึ้น ลงทุนมากขึ้น นั่นเอง ลองเป็น Infopreneur กันเถอะ

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทำไมถึงบอกว่าการขายอีบุ๊คเป็น passive income หล่ะ???

ขายอีบุ๊คดีกว่า
ก่อนจะบอกว่าอีบุ๊คสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จริงๆแล้ว มันหมายความว่าอะไรกันแน่ 
 Passive Income is an income received on a regular basis, with little effort required to maintain it. It is closely related to the concept of "unearned income". quoted from http://en.m.wikipedia.org/wiki/Passive_income
เป็นไทยก็คือ รายได้ที่ได้รับสม่ำเสมอต่อเนื่อง โดยลงแรงแค่นิดหน่อยในการดูแลใส่ใจมัน หรือใกล้เคียงกับคอนเซปต์ที่ว่า "รายได้ที่ได้มาโดยไม่ต้องทำงาน"
จากความหมายดังกล่าวนี้เทียบกับรายได้จากการขายอีบุ๊คนั้นค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก อาจมีข้อถกเถียงว่าการสร้างอีบุ๊คก็ต้องเสียแรงเสียเวลาอยู่ดี นั่นก็จริง แต่อยากให้มองในส่วนการสร้างรายได้ของการขายอีบุ๊คมากกว่า อีบุ๊คดีๆซักเล่มอาจทำให้ผู้เขียนไม่ต้องทำอะไรอีกเลยเพียงแค่รอเงินเข้าบัญชีอย่างเดียว เนื่องจากระบบการซื้อ-ขาย รวมถึงการจัดส่ง จะเกิดขึ้นในรูปแบบออนไลน์อัตโนมัติซึ่งไม่ต้องพึ่งเจ้าของอีบุ๊คนั้นต่อไปอีกเลย ซึ่งนี่อาจเป็นคำตอบหนึ่งของคำถามยอดฮิตที่ว่า "ขายอะไรดี"

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ขายอะไรดีเพื่อให้มีรายได้เสริมเยอะๆ

ธุรุกิจอีบุ๊คในยุคโซเซี่ยลเน็ตเวิร์ค
ในยุคที่ Gen Y กำลังจะกลืนกิน Gen X และ Babyboom ในทางธุรกิจ คนยุคเดิมที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ไม่เพียงจะแต่จะมีความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจแต่อาจจะถึงกับล้มเหลวเลยก็เป็นได้ ยกตัวอย่างกรณีศึกษา Classic อย่าง Kodak และ Blackberry การติดอยู่กับความสำเร็จเก่าๆไม่อาจทำให้อยู่รอดอย่างยั่งยืนได้ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไวราวกระพริบตา ธุรกิจหนึ่งซึ่งกำลังถูกจับตามองว่าอาจจะเป็นกรณีศึกษาชิ้นต่อไป คือ หนังสือ ต้องยอมรับว่าการอ่านหนังสือในรูปแบบกระดาษมีช่วงเวลาที่ยาวนานมาก จนทำให้ลืมเลือนกันไปแล้วว่าการบันทึกความรู้หรือข้อความเพื่อส่งต่อกันเคยมีรูปแบบอื่นๆอยู่ การสลักลงบนศิลาหิน การเขียนบนใบลาน การใช้กระดานชนวน ล้วนแล้วแต่เป็นรูปแบบหนึ่งของหนังสือทั้งสิ้น แล้วการเปลี่ยนแปลงก็มาถึงอีกครั้งเมื่อเกิดยุคดิจิตอล ทางเลือกของการใช้กระดาษเปลี่ยนไป ตัวอย่างที่พบเห็นได้ใกล้ตัวที่สุดคือ จดหมาย อาจยังพอจะมีให้พบเห็นได้อยู่บ้างที่จะเขียนด้วยลายมือลงกระดาษ พับใส่ซอง ส่งให้ผู้รับ เพื่อให้ตอบกลับมาตัวการเขียนจดหมายในรูปแบบเดียวกัน eMail เปลี่ยนพฤติกรรมแบบเดิมไปแล้วกว่า90กว่าเปอร์เซ็นต์ eBook กำลังทำหน้าที่ของมันในลักษณะเดียวกัน มนุษย์ซึ่งในที่สุดอาจจะตระหนักได้ว่าการส่งต่อความรู้ผ่านกระดาษในรูปแบบหนังสือดูจะไม่คุ้มค่ากับการตัดไม้ทำลายธรรมชาติเพื่อส่งอ่านข้อมูลระหว่างกัน เมื่อนั้นอาจไม่มีใครอยากสนับสนุนหนังสือเล่มละสองสามร้อยแลกกับการซื้อมันในราคาเดียวกันแต่อยู่ในรูปแบบดิจิตอล หากคุณต่อการเริ่มทำธุรกิจสักอย่าง ลองรังสรรค์งานเขียนของคุณให้ดูมีคุณค่าแล้วลองขายในรูปแบบ eBook ด้วยราคาที่เหมาะสมและคุณพอใจเมื่อเทียบกับคุณค่าของมัน แล้วคุณจะได้พบว่า โลกมันกำลังเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริง!