แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มนุษย์เงินเดือน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มนุษย์เงินเดือน แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

5 วิธี ตอบคำถามตัวเอง ว่า ขายอะไรดี?

อยากมีรายได้เสริม อยากหาเงินใช้เอง อยากขายของ ขายอะไรดี คำถามเหล่านี้กำลังเป็นที่ฮิตมากในหมู่คนต้องการหาเงิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสโลกโซเซี่ยลที่มีให้เห็นกันทุกวันว่า ประสบความสำเร็จกันง่ายๆมาขึ้นทุกวันจากการโพสต์ขายของ แต่อะไรหล่ะที่จะเหมาะกับเรามากที่สุดเราจะได้เริ่มต้นลงมือขายซะที เรามีวิธีค้นหาคำตอบให้ทำคุณเองว่าคนอย่างคุณจะเหมาะกับการขายอะไร

วิธีที่ 1. ดูจากปริมาณเพื่อน 
ถ้าคุณมีมิตรภาพคับแก้ว เรียกว่าแค่คุยไลน์หรือตอบเม้นเพื่อนๆในเฟสฯก็หมดวันแล้ว แนะนำให้คุณเลือกขายสินค้าที่เป็น Mass Product ขายให้คนหมู่มาก คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องกิน ต้องใช้ หรือ ปัจจัยสี่ ทั้งหลาย เช่น ขนม, อาหาร, บ้าน, คอนโด ยิ่งถ้าหากเป็นสินค้าแบบซื้อมาขาย และคุณสามารถหาแหล่งขายราคาส่งถูกๆได้ การันตีกำไรของคุณไหลมาเทมาแน่นอน

วิธีที่ 2. ดูจากความชอบ"ส่วนตัว"
ถ้าคุณสนใจอะไรมากๆหรือมีงานอดิเรกที่ตัวเองชอบทำ ให้หาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณรักคุณชอบ เพราะนั่นคือสิ่งที่คุณเข้าใจมันมากที่สุดคุณสามารถบอกเล่าเรื่องราวของสิ่งที่คุณรักได้เป็นฉากๆ เช่น รักลูก, ชอบปั่นจักรยาน, ชอบเล่นโยคะ, เป็นติ่งวงเกาหลี

วิธีที่ 3. ดูจากการรับรู้ข่าวสารข้อมูล
ถ้าคุณพบว่าคุณเป็นคนทันข่าวสาร เป็นแฟนคลับพี่ยุทธฟังพี่ยุทธทุกวัน เข้าเว็บmanagerก่อนเริ่มงาน อยู่ในกระแสตลอดไม่เคยตกเทรนด์ สินค้าที่เหมาะกับคุณคือ สินค้าตามกระแสนิยม หรือ เทคโนโลยีตัวอย่างเช่น iPhoneใหม่, ไม้Selfie, หญ้ารีแพร์, DVD T25, ... แต่ในทางกลับกันถ้าคุณตามข่าวไม่ทันกับใครเค้าเลย แนะนำเป็นสินค้า Classic เช่น รถเก่า, ภาพถ่ายประวัติศาสตร์, ตำราโบราณ, แจกันราชวงศ์หมิง เป็นต้น

วิธีที่ 4. ดูจากงานปัจจุบัน
ถ้าคุณทำงานประจำ เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ ให้เอาความสามารถที่ทำเป็นงานประจำนั้นมาเป็นจุดขาย หรือ ขายสินค้าของบริษัทนั่นแหละ ในเมื่อต้องเจอทุกวันคงไม่มีใครเข้าใจสินค้าเหล่านั้นไปมากกว่าคุณแล้ว เช่น เป็นครูเปิดคอร์สสอนพิเศษ, เป็นค่าราชการก็ติวสอบกพ., พนักงานธนาคารก็ขายเงินฝาก-กองทุน-ประกัน,... 

วิธีที่ 5. ดูจากฐานะ
ถ้าคุณรวยมาแต่กำเนิด เข้าใจว่าไม่ต้องหาอะไรมาขายก็คงอยู่ได้มีอันจะกินอยู่แล้ว แต่ถ้าอย่างลองขายจริงๆ ก็ของสร้างกิจการธุรกิจแล้วขาย IPO เข้าตลาดทุนเลยน่าจะเหมาะที่สุด แต่ถ้าคุณมีฐานะกลางๆหรือค่อนข้างจะล่างๆ ทุนน้อยแนะนำให้ลองธุรกิจที่คนส่วนใหญ่อาจจะมองข้าม นั่นคือ สินค้าสารสนเทศ Information Product ที่ใช้ต้นทุนน้อยมากๆอาจเริ่มต้นด้วยการศึกษาก่อน (จะไปหาอ่านตามร้านหนังสือฟรีๆก็ได้ สมัยนี้เห็นนั่งอ่านกันบนพื้นในร้านเลยก็มี) ไม่ว่าจะเป็นในด้านใดก็ตาม เมื่อศึกษาจนเข้าใจในระดับที่เริ่มนำไปให้ความรู้คนอื่นได้แล้ว ก็แปลงมันเป็นตัวสินค้าเพื่อขายได้เลย บางคนลงทุนแค่เพียงค่าเล่นอินเตอร์เน็ตตามคาเฟ่ชั่วโมงละ30บาทก็ขายของได้ อื่นๆก็เช่น การเปิดคอร์สอบรมให้ความรู้, การเขียนอีบุ๊คขายออนไลน์หาเงิน

สนใจการเขียนอีบุ๊คขาย แนะนำหนังสือออนไลน์ อีบุ๊ค 

 "เขียนอีบุ๊คขายออนไลน์ด้วยไอแพด"

    คนส่วนใหญ่ที่อยากมีรายได้ซื้อไปอ่านทันที 
http://inwebook.blogspot.com/2014/11/blog-post_8.html

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วิธีอัพเวลให้มนุษย์เงินเดือน


คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในวัยพนักงานประจำหรือมนุษย์เงินเดือนไม่น่าจะพลาดที่ต้องรู้จักคำว่า อัพเลเวล หรือ อัพเวล ที่ใช้กันในการเล่นเกมส์เพื่อเพิ่มพลังและความสามารถต่างๆของตัวเราหรือสิ่งที่เราสร้างในเกม เมื่อวันนึงต้องมองย้อนกลับมาดูตัวเองที่นิ่งๆในตำแหน่งและสถานะทางสังคมเดิมๆ นั่นแหละถึงเวลาในโลกความเป็นจริงแล้วหล่ะ ที่คุณเองก็ต้องหาทาง อัพเวล เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสกิล, พลังชีวิต, มิตรภาพ, ความรู้ หรือแม้กระทั่ง เง้นก็ตาม ในเกมนั้นก็มีหลายทางในการสะสมเงินเช่นการทำเควสยากๆที่อาจได้เงินมากมายแต่นั่นก็อาจต้องแลกกับหลายชีวิตในเกมส์เลยก็เป็นได้ แล้วในชีวิตมนุษย์เงินเดือนของคุณหล่ะ ลองซักเควสมั้ย?

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนพอจะทำได้

   วิถีชีวิตของมนุษย์เงินเดือนในเมืองใหญ่ไม่ได้ต่างกันแต่อย่างใด ส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานตอนเช้า ทำงานแปดถึงสิบชั่วโมงต่อวัน รักวันศุกร์และไม่ชอบวันจันทร์ วนเวียนอยู่แบบนี้จนน่าเบื่อหน่าย สิ่งที่ทำให้ชีวิตดูมีสีสันขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของวัตถุแทบทั้งสิ้น กระเป๋า รองเท้า แว่นตา โทรศัพท์ เรื่อยไปจนเป็นวัตถุขนาดใหญ่ บ้าน รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ทำไมจึงต้องมี การมีวัตถุเหล่านี้ไม่ได้หมายถึงว่าต้องการโอ้อวดเสมอไป
วัตถุนิยมเหล่านี้มีผลในการจิตใจ การทำงานและใช้ชีวิตอย่างซ้ำไปซ้ำมาไม่อาจทำให้ได้ใช้ชีวิตตามที่ต้องการได้ วัตถุนี่แหละเป็นเครื่องเติมเต็มแม้ว่ามันอาจไม่ยั่งยืนก็ตาม แต่มันคงไม่ได้มีอะไรจะเสียแล้วนี่กับชีวิตวนวนแบบนี้ หลายคนพยายามหาทางออกจากสิ่งที่เค้าเรียกกันว่า Comfort Zoneซึ่งความเป็นจริงไม่ได้ต่างจากเรือนจำไปมากมายนัก เงิน และ ความมั่งคั่ง ส่งผลตามมาจากลัทธิวัตถุนิยม ทำไมคิดกันว่าต้องรวยเท่านั้นจึงจะหลุดออกไปจากวงเวียนนี้ได้ บางคนมองหาสิ่งต่างๆทำเพื่อให้มีรายรับอีกทาง ขายตรง ขายประกัน ทำขนมขาย งานไม่ประจำเหล่านี้กลายเป็นรูปแบบใหม่ที่ให้ความหวัง ให้มนุษย์กินเงินเดือน แต่มีเพียงไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของคนทั้งหมดที่จะใช้วิถีทางนี้เพื่อหลุดพ้นได้ การหาข้อมูลทางเลือกเพื่อชีวิตนั้นทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Self development การเพิ่มมูลค่าให้กับตนเองนั้นเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น และสิ่งที่ตามมาสำหรับเรื่องราวเล่านี้ก็คือ "การอ่าน" ความรู้ในรูปแบบหนังสือเป็นเหมือนคำสัญญาต่อตนเองว่าสักวันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง หนังสือดีๆแค่ปกและคำโปรยผู้คนก็อยากจะกระโจนเข้าใส่ อีกมุมมองหนึ่งของคนที่เกือบจะใช้ชีวิตแบบเดียวกับที่เป็นอยู่นี้ มีความต้องการที่จะแบ่งบัน ความรู้ แนวคิด จินตนาการให้กับเหล่ามนุษย์ร่วมเส้นทาง การเผยแพร่ข้อมูลผ่านทางสื่อดิจิตอลเป็นสิ่งหนึ่งที่เราๆพอจะทำกันได้ แล้วถ้าวันหนึ่งข้อมูลความรู้เหล่านี้มีคุณค่ามากเกินมูลค่าจนทำให้คนต้องการมากเพียงพอจะจ่ายเพื่อสิ่งเหล่านั้นได้ นั่นแหละธุรกิจ และเป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนพอจะทำได้